อัพเดทภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปี 2565 พร้อมคำแนะนำวิธีคำนวณ
ขึ้นชื่อว่าภาษีก็เลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการสร้างบ้านบนที่ดินของตนเอง จะต้องเสียภาษี “ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง”ดังนั้นเจ้าของบ้านจึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาษีและปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอเพื่อจะได้ปฏิบัติตามระเบียบได้ถูกต้อง วันนี้เราจึงสรุปภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปี 2565 พร้อมแนะนำวิธีคำนวณภาษี ใครอยากสร้างบ้านต้องอ่านและทำความเข้าใจกับรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการสร้างบ้านในอนาคต
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คืออะไร ?
ภาษีที่ดินเป็นภาษีที่จัดเก็บเป็นรายปีตามมูลค่าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยมีหน่วยงานที่มีหน้าที่จัดเก็บภาษี อัตราภาษีจะคิดตามประเภทการใช้ประโยชน์
ใครบ้างที่ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ?
- เจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง แต่ถ้าเจ้าของที่ดินกับเจ้าของสิ่งปลูกสร้างเป็นคนละคนกันเจ้าของที่ดินก็เสียภาษีเฉพาะมูลค่าที่ดิน เจ้าของสิ่งปลูกสร้างเสียภาษีตามมูลค่าของสิ่งปลูกสร้างเท่านั้น
- ผู้ครอบครองใช้ประโยชน์จากที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นทรัพย์สินของรัฐ
- เจ้าของหรือผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินจะต้องเสียภาษีในปีถัดไป
ภาษีที่ดิน คำนวณอย่างไร
เมื่อเรารู้เรื่องภาษีที่ดินอย่างคร่าว ๆ แล้ว นั่นคือเราต้องรู้วิธีการคำนวณ การคำนวณภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะคำนวณแบบขั้นบันไดตามมูลค่าของฐานภาษีแต่ละฐานจะใช้สูตรเบื้องต้น ต้องแยกมูลค่าบ้านออกจากมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จากนั้นนำผลลัพธ์มารวมกันดังนี้
ที่ดินที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง
- ภาษีที่ต้องจ่าย = มูลค่าที่ดิน x อัตราภาษี
- โดยมูลค่าที่ดิน = ราคาประเมินที่ดิน (ต่อตารางเมตร) x พื้นที่ดิน
- ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
- ภาษีที่ต้องจ่าย = มูลค่าที่ดิน + มูลค่าสิ่งปลูกสร้าง x อัตราภาษี
- โดยมูลค่าที่ดิน = ราคาประเมินที่ดินต่อตารางเมตร x ขนาดพื้นที่ดิน
- มูลค่าสิ่งปลูกสร้าง = (ต้นทุนโดยประมาณของอาคารและสิ่งปลูกสร้าง (ต่อตารางเมตร) x พื้นที่อาคาร) – ค่าเสื่อมราคา
ห้องชุด
- ภาษีที่ต้องจ่าย = มูลค่าต่อหน่วย x อัตราภาษี
- โดยมูลค่าห้องชุด = ราคาประเมินทรัพย์สินห้องชุด (ต่อ ตร.ม.) x ขนาดพื้นที่ห้องชุด (ตร.ม.)
อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจำแนกตามประเภทการใช้ประโยชน์และผู้เสียภาษีเป็นหลัก ซึ่งแบ่งออกเป็นสี่ประเภท อัตราภาษีจะคำนวณเป็นขั้นเป็นตอนตามมูลค่าของฐานภาษีแต่ละฐานดังนี้
1. ที่ดินประกอบเกษตรกรรม
การใช้ประโยชน์ในการเกษตรต้องทำนา ทำสวน เลี้ยงสัตว์ และประกอบกิจการ หากเกษตรกรรมไม่ได้ใช้ที่ดิน รัฐบาลจะเก็บภาษีตามสัดส่วนของการใช้ที่ดินของเกษตรกรแต่ละคน ที่ดิน 50 ล้านบาทแรกได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี
อัตราภาษีตามมูลค่าทรัพย์สิน
- 0 – 75 ล้านบาท อัตราภาษี 0.01% โดยภาษีที่ต้องชำระต่อปีไม่เกิน 7,500 บาท
- 75 – 100 ล้านบาท อัตราภาษี 0.03% โดยภาษีที่ต้องชำระต่อปีไม่เกิน 30,000 บาท
- 100 – 500 ล้านบาท อัตราภาษี 0.05% โดยต้องเสียภาษีประจำปีไม่เกิน 250,000 บาท
- 500-1,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.07% โดยภาษีที่ต้องชำระต่อปีไม่เกิน 700,000 บาท
- 1,000 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.1% ซึ่งภาษีที่ต้องชำระต่อปีไม่เกิน 1 ล้านบาท
2. ที่อยู่อาศัย
ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของใช้อยู่อาศัย ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแบ่งออกเป็น
2.1 ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
อัตราภาษีตามมูลค่าทรัพย์สิน
- 0-25 ล้านบาท อัตราภาษี 0.03% และภาษีที่ชำระรายปีไม่เกิน 7,500 บาท
- 25-50 ล้านบาท อัตราภาษี 0.05% โดยภาษีที่ต้องชำระต่อปีไม่เกิน 25,000 บาท
- 50 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.1% ซึ่งต้องจ่ายต่อปีไม่เกิน 50,000 บาท
- 2.2 อาคารที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
อัตราภาษีตามมูลค่าทรัพย์สิน
- 0-40 ล้านบาท อัตราภาษี 0.02% และภาษีที่ต้องชำระต่อปีไม่เกิน 8,000 บาท
- 40-65 ล้านบาท อัตราภาษี 0.03% โดยภาษีที่ต้องชำระต่อปีไม่เกิน 19,500 บาท
- 65 – 90 ล้านบาท อัตราภาษี 0.05% และภาษีที่ต้องชำระต่อปีไม่เกิน 45,000 บาท
- 90 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.1% ซึ่งเสียภาษีประจำปีตั้งแต่ 90,000 บาทขึ้นไป
- 2.3 ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย (บ้านหลังอื่น) นอกจากใช้เป็นที่อยู่อาศัยตามข้อ 2.1 และ 2.2
อัตราภาษีตามมูลค่าทรัพย์สิน
- 0-50 ล้าน อัตราภาษี 0.02% โดยภาษีที่ต้องชำระต่อปีไม่เกิน 10,000 บาท
- 50-75 ล้าน อัตราภาษี 0.03% โดยภาษีที่ต้องชำระต่อปีไม่เกิน 22,500 บาท
- 75-100 ล้าน อัตราภาษี 0.05% โดยภาษีที่ต้องชำระต่อปีไม่เกิน 50,000 บาท
- 100ล้านขึ้นไป อัตราภาษี 0.1% ซึ่งมีภาษีที่ต้องชำระต่อปีตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไป
3. ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามข้อ 1 หรือ 2
สำหรับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนี้จะไม่เก็บเพื่อการเกษตรและที่อยู่อาศัย แต่จะเป็นที่ดินเพื่อการพาณิชย์
อัตราภาษีตามมูลค่าทรัพย์สิน
- ไม่เกิน 50 ล้าน คิดอัตราภาษี 0.3% ซึ่งมีภาษีที่ต้องชำระต่อปีไม่เกิน 150,000 บาท
- 50-200 ล้าน อัตราภาษี 0.4% โดยภาษีที่ต้องชำระต่อปีไม่เกิน 800,000 บาท
- 200-1,000 ล้าน อัตราภาษี 0.5% โดยภาษีที่ต้องชำระต่อปีไม่เกิน 5 ล้านบาท
- 1,000 – 5,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.6% ภาษีต่อปีไม่เกิน 30 ล้านบาท
- 5,000 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.7% ที่ต้องจ่ายต่อปีไม่เกิน 35 ล้านบาท
4. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งร้างหรือไม่ได้ใช้ประโยชน์
และกลุ่มสุดท้ายที่ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแพงที่สุดคือที่ดินที่ปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้ใช้ประโยชน์
อัตราภาษีตามมูลค่าทรัพย์สิน
- ไม่เกิน 50 ล้าน อัตราภาษี 03% และภาษีที่ต้องชำระต่อปีไม่เกิน 150,000 บาท
- 50 – 200 ล้านบาท อัตราภาษี 0.4% โดยภาษีที่ต้องชำระต่อปีไม่เกิน 800,000 บาท
- 200-1,000ล้าน อัตราภาษี 0.5% โดยภาษีที่ต้องชำระต่อปีไม่เกิน 5 ล้านบาท
- 1,000-5,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.6% และภาษีประจำปีไม่เกิน 30 ล้านบาท
- 5,000 ล้านขึ้นไป อัตราภาษีอยู่ที่ 0.7% คือต้องเสียภาษีต่อปีไม่เกิน 35 ล้านบาท
เสียภาษีที่ดิน-สิ่งปลูกสร้างได้ที่ไหน ?
สำหรับช่องทางการชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กรุงเทพมหานครได้เพิ่มทางเลือกและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนชำระภาษีได้สะดวกรวดเร็ว ดังนี้
- สำนักงานเขต
- ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา ทั่วประเทศ
- ตู้เอทีเอ็ม ธ.กรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ
- วีซ่าและมาสเตอร์การ์ดของธนาคารและสถาบันการเงินทุกแห่ง
- ชำระเงินข้ามธนาคารด้วย Barcode หรือ QR Code